สืบเนื่องจากอำเภอกุสุมาลย์ ได้มีการจัดประชุมสภาสุขภาพอำเภอ
เมื่อวันที่ 14กันยายน ๒๕๕๕ ขึ้น
เพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์สุขภาพอำเภอ
โดยการลงนามความร่วมมือกัน ระหว่าง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสกลนคร กับภาคีเครือข่ายต่างๆ
ในนามของสภาสุขภาพอำเภอ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาสุขภาพประชาชน ในด้านต่างๆ
จำนวน ๑๐ ด้าน ดังนี้
จำนวน ๑๐ ด้าน ดังนี้
๑. ด้านเมืองน่าอยู่
๒. ด้านการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย
๓. ด้านโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ
๔. ด้านศูนย์เด็กเล็กน่าอยู่
และศูนย์เด็กเล็กปลอดโรค
๕. ด้านการแพทย์พื้นบ้าน
๖. ด้านการจัดบริการปฐมภูมิเชิงรุก
๗. ด้านการป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
(๕ killers)
๘. ด้านอำเภอควบคุมโรคเข้มแข็ง
๙. ด้านการส่งเสริมสุขภาพ
๑๐. ด้านการป้องกันยาเสพติด
การทำงานด้านเมืองน่าอยู่ เป็นงาน 1 ใน 10 ของ
กลยุทธการทำงานของสภาสุขภาพอำเภอ ตามแผนการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙ (ฉบับปัจจุบัน) มีแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่เป็นความสมดุล ความพอประมาณ ความมีเหตุผลและมีภูมิคุ้มกัน การสร้างฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนบนรากฐานการพัฒนาของความสมดุล ใน ๓ มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยใช้แนวทางการจัดการแบบบูรณาการที่สอดคล้องตามระบบนิเวศของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งผสมผสานการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นร่วมกับการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
สภาสุขภาพอำเภอกุสุมาลย์ โดยสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกุสุมาลย์
(เลขาสภาสุขภาพอำเภอ) ได้นำโครงการการจัดการขยะมูลฝอยโดยชุมชน (Community Based
Solid Waste Management : CBM) เข้ามาดำเนินงานภายในเขตอำเภอกุสุมาลย์
จำนวน 5 ตำบล โดยเริ่มที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั้งหมด 6
แห่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ชุมชนและครัวเรือนเข้ามามีส่วนร่วม
โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีการคัดแยกขยะให้มากที่สุด จนทำให้ปริมาณขยะเหลือน้อยที่สุดก่อนนำไปกำจัด ณ
บ่อฝังกลบขยะ กลยุทธการทำงานของสภาสุขภาพอำเภอ ตามแผนการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.๒๕๕๕ – ๒๕๕๙ (ฉบับปัจจุบัน) มีแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่เป็นความสมดุล ความพอประมาณ ความมีเหตุผลและมีภูมิคุ้มกัน การสร้างฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนบนรากฐานการพัฒนาของความสมดุล ใน ๓ มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยใช้แนวทางการจัดการแบบบูรณาการที่สอดคล้องตามระบบนิเวศของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งผสมผสานการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นร่วมกับการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
รูปแบบการดำเนินงาน
สาธารณสุขอำเภอกุสุมาลย์ (โดยนายพลนาภา นนสุราช) มอบหมายภาระกิจให้ รพ.สต.ทั้งหมด
6 แห่ง โดยให้ แต่ละพื้นที่ดำเนินการ ร่างระเบียบข้อบังคับขึ้นมา โดยมอบหมายแนวทางและนโยบายกว้างๆ
ดังนี้
1. ให้ รพ.สต.ทุกแห่ง เริ่มดำเนินการ กับกลุ่ม อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และกลุ่มแกนนำต่างๆในหมู่บ้านก่อน และเชิญชวนสมาชิก อื่นๆ เข้ามาร่วมดำเนินการ โดยนับเป็นหลังคาเรือน
2.ต้องสมัครเป็นสมาชิกของกลุ่มและ ขายขยะรีไซเคิลติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๖ เดือน
3.หลังจากขายขยะรีไซเคิลติดต่อกันครบ ๖ เดือน แล้วจำนวนเงินที่ขายขยะจะต้องครบ 300 บาท ไว้เป็นทุน ในการดำเนินการฌาปนกิจสงเคราะห์ ธนาคารขยะ (ฌกส.) หากไม่ครบสมาชิกจะต้องฝากให้ครบจำนวนก่อน จึงจะมีสิทธิ์
4.หากหยุดขายขยะติดต่อกันเกิน ๑ เดือน จะพ้นสภาพการเป็นสมาชิก และจะต้องเริ่มต้นนับอายุการเป็นสมาชิกใหม่ติดต่อกัน 3 เดือน จึงจะกลับมามี สิทธิดังกล่าวอีกครั้ง
5.กรณีสมาชิกในครอบครัวย้ายเข้ามาเพิ่มเติมต้องมีชื่อยู่ในทะเบียน นับตั้งแต่วันย้ายเข้าบ้านสมาชิกโครงการฯไม่น้อยกว่า ๖ เดือน จึงมีสิทธิรับเงิน ค่าฌาปนกิจ
6.ให้ครอบครัวที่ประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกยื่นใบสมัครได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ของตนเอง หรือที่ทำการชมรมที่ก่อตั้ง พร้อมแนบสำเนาทะเบียนบ้านเพื่อแจ้งรายชื่อสมาชิกในครอบครัว
1. ให้ รพ.สต.ทุกแห่ง เริ่มดำเนินการ กับกลุ่ม อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และกลุ่มแกนนำต่างๆในหมู่บ้านก่อน และเชิญชวนสมาชิก อื่นๆ เข้ามาร่วมดำเนินการ โดยนับเป็นหลังคาเรือน
2.ต้องสมัครเป็นสมาชิกของกลุ่มและ ขายขยะรีไซเคิลติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๖ เดือน
3.หลังจากขายขยะรีไซเคิลติดต่อกันครบ ๖ เดือน แล้วจำนวนเงินที่ขายขยะจะต้องครบ 300 บาท ไว้เป็นทุน ในการดำเนินการฌาปนกิจสงเคราะห์ ธนาคารขยะ (ฌกส.) หากไม่ครบสมาชิกจะต้องฝากให้ครบจำนวนก่อน จึงจะมีสิทธิ์
4.หากหยุดขายขยะติดต่อกันเกิน ๑ เดือน จะพ้นสภาพการเป็นสมาชิก และจะต้องเริ่มต้นนับอายุการเป็นสมาชิกใหม่ติดต่อกัน 3 เดือน จึงจะกลับมามี สิทธิดังกล่าวอีกครั้ง
5.กรณีสมาชิกในครอบครัวย้ายเข้ามาเพิ่มเติมต้องมีชื่อยู่ในทะเบียน นับตั้งแต่วันย้ายเข้าบ้านสมาชิกโครงการฯไม่น้อยกว่า ๖ เดือน จึงมีสิทธิรับเงิน ค่าฌาปนกิจ
6.ให้ครอบครัวที่ประสงค์จะสมัครเป็นสมาชิกยื่นใบสมัครได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ของตนเอง หรือที่ทำการชมรมที่ก่อตั้ง พร้อมแนบสำเนาทะเบียนบ้านเพื่อแจ้งรายชื่อสมาชิกในครอบครัว
การเบิกถอนเงินและรักษาสภาพสมาชิก
1.ครอบครัวที่สมัครเป็นสมาชิก
จะได้รับสมุดรับฝาก (สนับสนุนโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร ) ในการดำเนินการ นำขยะรีไซเคิลที่คัดแยกแล้ว
มาขาย และจะได้รับเงินเป็นเงินฝากในบัญชีธนาคารขยะ ตามจำนวนขยะที่ขายได้ ซึ่งการดำเนินการจะนัดหมายกันเดือนละ
1 ครั้ง
2.หลังจากดำเนินการครบ 6 เดือนแล้ว
สมาชิกที่มียอดเงินคงเหลือในบัญชีเกิน กว่า
๓๐๐
บาท มีสิทธิ์ที่จะเบิกถอนเงิน ในส่วนที่เกิน 300 บาท ได้ หากไม่ครบตามจำนวนเงินจะต้องดำเนินการให้ครบก่อนจึงจะมีสิทธิ
3.หากหยุดขายขยะติดต่อกันเกิน ๑ เดือน จะพ้นสภาพการเป็นสมาชิก และจะต้องเริ่มต้นนับอายุการเป็นสมาชิกใหม่ติดต่อกัน 3 เดือน จึงจะกลับมามี สิทธิดังกล่าวอีกครั้ง
4.การสมทบจ่ายค่าฌาปนกิจศพแก่สมาชิกรายอื่นๆ หลังคาเรือนละ 20 ต่อ 1 ศพ
3.หากหยุดขายขยะติดต่อกันเกิน ๑ เดือน จะพ้นสภาพการเป็นสมาชิก และจะต้องเริ่มต้นนับอายุการเป็นสมาชิกใหม่ติดต่อกัน 3 เดือน จึงจะกลับมามี สิทธิดังกล่าวอีกครั้ง
4.การสมทบจ่ายค่าฌาปนกิจศพแก่สมาชิกรายอื่นๆ หลังคาเรือนละ 20 ต่อ 1 ศพ
5.ครอบครัวที่เป็นสมาชิก ประสงค์ที่จะขอรับเงินค่าฌาปนกิจศพ จะต้องยื่นเอกสารดังนี้
-คำร้องขอรับเงินค่าฌาปนกิจศพ
-ใบมรณะบัตรของผู้เสียชีวิต
-สำเนาบัตรประจำตัวผู้ยื่นคำขอ
-สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียชีวิต
-สำเนาทะเบียนบ้าน
รูปกิจกรรมการดำเนินงาน
-คำร้องขอรับเงินค่าฌาปนกิจศพ
-ใบมรณะบัตรของผู้เสียชีวิต
-สำเนาบัตรประจำตัวผู้ยื่นคำขอ
-สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียชีวิต
-สำเนาทะเบียนบ้าน
รูปกิจกรรมการดำเนินงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น